วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

[AI613-Weekly Journal] Week 2: Understanding and Managing Information Technologies

Week 2: November 16, 2010

                ปัจจุบัน กระบวนการภายในธุรกิจกือบทั้งหมดมีระบบสารสนเทศเข้ามาเกี่ยวข้องแทบทั้งสิ้น เช่น ธุรกิจเครื่องสำอางค์ขายสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ท เช็คสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ทได้ เป็นต้น

ประโยชน์ของระบบสารสนเทศต่อธุรกิจ
- ทำให้ Business Process ทำงานได้คล่องขึ้น
- ทำให้เกิดความคิดใหม่ๆให้กับธุรกิจ

ความสัมพันธ์ระหว่าง Data, Information, Knowledge
                Data เป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง ไม่สามารถบอกอะไรได้ ไม่มีความหมายในตัวเอง ต้องผ่านกระบวนการประมวลผลเพื่อเป็น Information ซึ่งสามารถช่วยในการตัดสินใจ นำมาใช้ประโยชน์ต่อไปได้ และเมื่อนำ Information มาผ่านกระบวนการลองทำจริง วัดประเมินผล ทำให้กลายเป็น Knowledge

ระดับของ Information System
1 .Personnal and Productivity System
                ระบบสารสนเทศที่สร้างขึ้นเพื่อผู้ใช้งานส่วนบุคคล

2. Transaction Processing System
                ระบบสารสนเทศสำหรับการบันทึกข้อมูล (Data) ภายในองค์กรทั้งหมด เป็นระบบสารสนเทศที่มีอยู่เกือบทุกองค์กร ใช้งานมากที่สุด และมีความสำคัญมากที่สุด เป็นเป็นระบบที่เก็บข้อมูลทุกอย่างของทุกฝ่ายในองค์กรเอาไว้ เพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ต่อไป เช่น แผนกบัญชีเก็บข้อมูลเอาไว้เพื่อทำงบการเงิน นำไปวัดประเมินผลการดำเนินงาน, แผนกจัดการทรัพยากรบุคคล เก็บข้อมูลพนักงานเอาไว้ เพื่อดูผลการทำงาน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ ระบบสารสนเทศ ทุกระบบ หากข้อมูลจาก TPS มีความผิดพลาด อาจส่งผลให้ข้อมูลที่ได้ใน ระบบสารสนเทศ ส่วนอื่นก็จะผิดพลาดไปด้วย

3. Functional and Management Information System
                ระบบสารสนเทศใช้ภายในหน่วยงานนั้นๆ ตัวอย่างเช่น
            - Management Information System (MIS) ระบบสารสนเทศสำหรับผู้จัดการระดับการ จุดประสงค์เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการประมวลผลมาใช้เปรียบเทียบ และใช้ในการตัดสินใจ ซึ่ง Mระบบสารสนเทศ ทำเพียงแค่รายงานผลออกมา ไม่จำเป็นต้องมีฟังก์ชั่นมากจนเกินความจำเป็น ผลของ Mระบบสารสนเทศ นำมากจากข้อมูล TPS ซึ่ง ถ้าหาก TPS บันทึกข้อมูลผิดพลาด ก็จะทำให้ผลของ Mระบบสารสนเทศ ผิดพลาดตามไปด้วย
            - Decision Support System (DSS) ระบบสารสนเทศที่ช่วยในการตัดสินใจ โดยนำวิธีการทางสถิติเข้ามาช่วย ทำให้ได้ข้อมูลที่มากกว่าการมองด้วยตาเปล่า แตกต่างกับ Mระบบสารสนเทศ ตรงที่ Mระบบสารสนเทศ เป็นการนำข้อมูลภายในองค์กรเพียงอย่าเดียวมาประมวลแสดงผลเท่านั้น ไม่ได้ทำการตัดสินใจเอง แต่ DSS นำข้อมูลจากภายนอกองค์กรมาประกอบ พร้อมทั้งทำการการตัดสินใจด้วย แต่ผลที่ออกมาไม่ได้หมายความว่า ถูกต้อง สมบูรณ์เสมอไป
            - Group Decision Support System (GDSS) ระบบสารสนเทศที่ช่วยในการแสดงข้อมูลต่างๆพร้อมกันทุกคนในที่ประชุม ซึ่งช่วยในการตัดสินใจที่เป็นกลุ่มมีประสิทธิภาพ และช่วยลดความขัดแย้งภายในการประชุม
            -Executive Support System (ESS) ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูง นำข้อมูลมาจากภายนอกองค์กร(TPS) และ Mระบบสารสนเทศ แสดงผลการดำเนินงานที่เป็นกราฟ ดูง่าย มี dashboard ช่วยประหยัดเวลาในการอ่านข้อมูลของผู้บริหารที่ไม่ค่อยมีเวลาอยู่แล้ว

4. Enterprise System
                ระบบสารสนเทศที่มีการเชื่อมข้อมูลจากทุกส่วนภายในองค์กรหรือนอกองค์กร ตัวอย่างเช่น
            - Supply Chain Management System ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการบริหาร Supply Chain ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรทั้งสาย ตั้งแต่การนำวัตถุดิบเข้า การผลิต การส่งขายหรือส่งสินค้า.
            - Customer Relationship Management (CRM) ระบบสารสนเทศใช้ในการจัดการลูกค้า เพื่อสร้างความพึงพอใจทั้งลูกค้าใหม่ และรักษาลูกค้าประจำเอาไว้
            - Software at a service (SASS) หรือ Cloud Computing (การประมวลกลุ่มเมฆ)
            - Knowledge Management System ระบบสารสนเทศที่เก็บองค์ความรู้ต่างๆในองค์กร เพื่อให้สามารถแบ่งปันความรู้ให้กับบุคลากรในองค์กรทุกคน สามารถนำไปแตกยอดต่อ และรักษาไม่ให้ความรู้หายไปพร้อมกับพนักงานที่ลาออกไป รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการ training พนักงานใหม่

5.Interorganizational System
                ระบบสารสนเทศที่เชื่อมข้อมูลหน่วยงานหรือองค์กรระหว่างประเทศ เช่น บริษัทมีสาขาอยู่ที่ต่างประเทศ เป็นต้น ตัวอย่างของระบบสารสนเทศ เช่น
            - Intranet ระบบอินเตอร์เน็ทภายในองค์กร
            - Extranet ระบบอินเตอร์เน็ทระหว่างองค์กร เป็น Network เชื่อมข้อมูลระหว่างองค์กร มีความปลอดภัยมากกว่า Internet
            - Collaboration and Comunication System ระบบที่ใช้สื่อสารกันภายในองค์กร ซึ่งรวมถึง E-mail, Instant Message(IM), Cell phones, Social networking, Wiki, Virtual world

6. Global System
                ระบบสารสนเทศที่เชื่อมกันทั่งโลก ใช้อินเตอร์เน็ทเป็นตัวกลาง เช่น
            - E-Business เช่น การซื้อขายออนไลน์ E-commerce
            - E-Government เช่น การซื้อทะเบียนเลขสวย หรือการเสียภีผ่านทางอินเตอร์เน็ท

7. Very Large and Special System

Information System Department
                หน่วยงานด้านระบบสารสนเทศในองค์กร เป็นหน่วยงานแนวนอนที่ช่วยสนับสนุนหน่วยงานอื่นๆภายในองค์กร ตำแหน่งสูงสุดของหน่วยงานนี้คือ Chief Information Officer (CIO) เป็นผู้บริหารที่ควบคุมดูแลด้านนี้โดยตรง บางครั้งเรียกว่า Chief Technology Officer (CTO) แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญในหน่วยงานนี้สักเท่าไหร่

เพิ่มเติม
            - Web 2.0 : เป็น  www ที่มีผู้คนทั่วไปเป็นผู้สร้างสรรค์เผยแพร่ผลงานออกมา ไม่จำเป็นแต่ว่าฝ่ายบริษัทผู้ผลิตจะเป็นฝ่ายออกผลงานอย่างเดียวเท่านั้น ตัวอย่างเช่น Youtube,Twistter
            - Web 3.0 : Intelligent  web ที่ต้องการให้เกิดขึ้นจริง สามารถติดต่อกับคนได้ทั่วโลก โดยที่มีตัวช่วยในการแปลภาษา
          - Virtualization : ความพยายามที่จะทำให้ Server ของแต่ละ Software มารวมกัน ลดความซับซ้อนและยุ่งยากในการจัดการ

IT Hype Presentation
                1. กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic paper or E-Paper) เทคโนโลยีที่แสดงผลเลียนแบบลักษณะการใช้หมึกพิมพ์บนกระดาษปกติ มีคุณสมบัติเหมือนกระดาษ สามารถบันทึกข้อความและภาพได้ มีความอ่อนตัวได้ แต่ ต่างจากกระดาษปกติที่สามารถลดแก้ใส่ข้อมูลใหม่ได้ ทำให้สามารถลดการใช้กระดาษได้
                2. Tablet PC คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้มีการพัฒนาให้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกในการพกพามากขึ้น ใช้ปากกา และลายมือการเขียนในการคีย์ข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่น iPad
                3. Green IT (เทคโนโลยีสารสนเทศสีเขียว) แนวคิดในการบริหารจัดการและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ IT ภายในองค์กรโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อม




น.ส. รชยา สุธีเชษฐ 5302110092

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น